วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2560

Lesson 9



บันทึกอนุทิน

วิชา  การบริหารจัดการสถานศึกษาระดับปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน   ว่าที่ ร.ต.กฤตธ์ตฤณน์  ตุ๊หมาก
ประจำวัน  พุธที่  8   มีนาคม   2560
เรียนครั้งที่  9  เวลา   12.30 -  15.30  น.  
กลุ่ม 102


นำเสนอคำคม


เลขที่ 14 นางสาวสุนันทา เอมสรรค์



"นกทำรังให้ดูไม้ ข้าเลือกนายให้ดูน้ำใจ"




เทคนิคการเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีสำหรับการเป็นผู้บริหาร


ความหมายของบุคลิกภาพ

       ลักษณะทั้งภายนอกและภายในที่รวมอยู่ในตัวบุคคลหนึ่งและเป็นผลทำให้บุคคลนั้น มีความแตกต่างไปจากบุคคลอื่นๆ บุคลิกภาพแบ่งออกเป็น 2 สภาพ ด้วยกันคือ
  • บุคลิกภาพภายนอก สามารถสังเกตเห็นหรือสัมผัสได้ด้วยประสาททั้ง 5 คือ หู ตา จมูก ลิ้น กาย สามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้โดยการฝึกเลียนแบบ และสามารถวัดผลได้ทันที บุคลิกภาพภายนอกที่สำคัญที่สุด คือ บุคลิกภาพทางกายและวาจา
  • บุคลิกภาพภายใน หมายถึง บุคลิกภาพที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเป็นส่วนที่สัมผัสได้ค่อนข้างยากและต้องใช้เวลาในการสัมผัส

➤ ประเภทของบุคลิกภาพ

        บุคลิกภาพภายนอก คือ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากภายนอกของแต่ละคนสามารถที่จะปรับปรุงแก้ไขได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน แบ่งเป็น 4 หมวด คือ
  • 1.รูปร่างหน้าตา
  • 2.การแต่งกาย
  • 3.กิริยาท่าทาง
  • 4.การพูด
        บุคลิกภาพภายใน คือ สิ่งที่อยู่ภายในจิตใจ หรืออุปนิสัยใจคอที่มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ แก้ไขได้ยาก เช่น
  • 1. ความเชื่อมั่นในตนเอง
  • 2. ความกระตือรือร้น
  • 3. ความรอบรู้
  • 4. ความคิดริเริ่ม
  • 5. ความจริงใจ
  • 6. ไหวพริบปฏิภาณ
  • 7. ความรับผิดชอบ
  • 8. ความจำ
  • 9. อารมณ์ขัน

การมองตัวเองในกระจก
  • การมองเห็นตัวเอง
  • การยอมรับตัวเอง
  • การเข้าใจตัวเอง
  • เชื่อถือในตัวเอง


รูปภาพให้แง่คิด

จากรูป คุณมองเห็นแก้วน้ำเป็นอย่างไร ?

มีแค่ครึ่ง หรือ มีตั้งครึ่ง








              ในแต่ละครั้งที่เราต้องพบเจอผู้คนในองค์กรหรือนอกองค์กร การสนทนา การแสดงความคิเห็น 
หรือการพูดให้ความรู้ การนำเสนองานต่างๆ นั้น ควรประกอบด้วย 3 ส่วน คือ เนื้อหาสาระของคำพูด 7% 
น้ำเสียง 38% กิริยาท่าทาง (บุคลิกภาพ) 55%
          1.การใช้สายตา การมอง การสบสายตาขณะพูด  
          2.การแต่งกาย  
          3.ภาษาพูด จังหวะการพูด ระดับเสียง  
          4.การเดิน / การนั่ง  
          5.การแสดงออกและท่าทาง การไหว้ การรับไหว้
          6.ความสะอาด
          7.สุขภาพต้องดี คนป่วยคงไม่มีใครอยากเข้าใกล้


➤  สาเหตุที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ คือความท้อถอย

             บุคลิกภาพที่ไม่สร้างสรรค์และอยู่ภายในตัวตนแล้วทำให้ความเป็นคนๆ นั้นไม่สมบูรณ์ ได้แก่ความท้อถอยแม้ว่าเป็นประโยคสั้นๆ แต่ถ้าอาการนี้ถ้าเกิดขึ้นกับใครแล้ว อาการนี้จะเข้ามาทำลายความสมดุลในตัวเรา เข้ามาแทรกในความรู้สึกนึกคิดทำให้พลังและศักยภาพของเราลดน้อยลงกว่าครึ่ง ในเรื่องความท้อถอยมักเกิดขึ้นกับบุคคลที่อยู่ในช่วงอายุ 20-40 ปี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบุคคลในช่วงอายุอื่นจะไม่มีความท้อ บางท่านอาจเกิดอาการท้อเป็นช่วงๆ บางท่านโชคดีไม่รู้จักความท้อ 



➤ ความท้อถอยสามารถสังเกตได้จากอาการ ลักษณะ คือ
        1. ลักษณะของความท้อถอยทางด้านอารมณ์ หรือ ความอ่อนล้าทางอารมณ์ ได้แก่ความรู้สึกเบื่อ
หน่าย ความอ่อนล้า หมดเรี่ยวหมดแรง เกิดความเครียด ความคับข้องใจ ไม่สบอารมณ์  
        2. ลักษณะของความท้อถอยที่เกิดจากสัมพันธภาพกับบุคคลอื่น ได้แก่ ลักษณะของบุคคลที่ไม่สนใจในพฤติกรรมของใครๆ ไม่ยินดียินร้าย ใครจะทักก็ช่าง ใครไม่ทักก็ช่าง ไม่ใส่ใจพฤติกรรมของคนอื่น มีเจตคติและแนวคิดที่ไม่ดีต่อคนอื่น มองคนอื่นในแง่ร้าย 
       3. ลักษณะของความท้อถอยที่เกิดจากการไม่ประสบความสำเร็จในการทำงานของคนบางท่านอาจจะรู้สึกเองว่าตนเองไร้ความสามารถ การทำงานล้มเหลว งานไม่สมกับที่ตั้งใจไว้ บุคคลกลุ่มนี้จะมองคุณค่าของตนเองต่ำ


➤ สาเหตุของความท้อถอย 
               ด้านบุคลิกภาพ  บุคลิกภาพที่พึ่งพาคนอื่น บุคลิกภาพที่ขาดความอดทน ขาดความอดกลั้น  
บุคลิกภาพที่เชื่อมั่นตนเองสูง บุคลิกภาพที่มีความรับรู้ตนเองต่ำ จิตใจไม่มั่นคง ไม่มั่นใจในทุกเรื่อง 
              ด้านอายุ  บุคคลที่มีอายุน้อย ความท้อถอย มีมากกว่าบุคคลที่สูงอายุ ทั้งนี้เพราะความท้อถอย
มีความสัมพันธ์กับประสบการณ์ วุฒิภาวะ การรู้จักชีวิตมากขึ้น 
              ด้านสถานภาพการสมรส  ความท้อมักเกิดกับคนโสดมากกว่าคนสมรสแล้ว ความท้อยัง
สัมพันธ์กับความเหงา คนโสดทั้งหญิงและชาย ถ้าเกิดอาการท้อถอย บุคคลในกลุ่มนี่จะเกิดอาการนาน
และค่อนข้างรุนแรง 
              ด้านการปฏิบัติงานในความรับผิดชอบ  เริ่มตั้งแต่สองปีแรกของการทำงานบุคคลจะเกิด
ความท้อได้ง่าย ยิ่งปฏิบัติงานแบบไม่มีใครช่วยใคร บุคคลยิ่งเกิดอาการท้อมากขึ้น



➤  แนวทางและวิธีการในการแก้ไขอาการท้อถอย
            1.ทุกสิ่งทุกอย่างต้องแก้ไขที่ตัวเราเองเท่านั้น     2.อย่าเป็นคนตั้งความหวัง ความปรารถนาที่สูงสุดเอื้อม     3.สร้างเจคติเรื่องงานใหม่ให้ท่านคิดว่า “งานคือชีวิต ชีวิตคืองานบันดาลสุขทำงานให้สนุกเป็นสุขเมื่อทำงาน"     4.มองหาจุดมุ่งหมายในชีวิตใหม่

➤ ครูกับการพัฒนาตน 
               1.การพัฒนาตนเป็นการที่บุคคลพยายามหาวิธีการที่เหมาะสมเพื่อให้ตนเองก้าวไปสู่การเป็นผู้มีบุคลิภาพสมบูรณ์ในขอบเขตที่มีความเหมาะพอดีกับความสามารถของผู้นั้น และเหมาะสมกับค่านิยมของสังคมเพื่อการชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข การพัฒนาคนนับเป็นสิ่งสำคัญในอันที่จะนำไปสู่การพัฒนาอื่นๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นครู
         2.ครูควรพัฒนาตนเองใน 2 ลักษณะคือ
              1.การพัฒนาตนเองในด้านวิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้แก
                     -การพัฒนาในด้านความรู้
                     -การพัฒนาในด้านเทคโนโลยี
                     -การพัฒนาในด้านคุณลักษณะกับเจคติ
             2.การพัฒนาตนเองในด้านการเป็นสมาชิกของสังคม เพื่อการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
                    -การรู้จักตนเองและเข้าใจตนเอง
                    -การสำรวจตนเอง
                    -การปรับปรุงตนเองในด้านการพัฒนาบุคลิกภาพภายนอก-ภายใน การพัฒนาลักษณะนิสัยที่ดี การพัฒนามนุษยสัมพันธ์ การพัฒนาการเรียนรู้

➤  การรักษาสุขภาพอนามัย
             -  ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
      -  รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
      -  ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เพิ่มหรือลดผิดปกติ
      -  ละเว้นการสูบบุหรี่หรือยาเสพติดให้โทษทุกชนิด
      -  ไม่ดื่มสิ่งของที่มีแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน
      -  พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ วันละ 7-8 ชม.
      -  รักษาอารมณ์ให้สดชื่นแจ่มใสอยู่เสมอ

➤  การดูแลร่างกาย
    -  รักษาความสะอาดในช่องปากและฟัน
    -  ดูแลรักษาเส้นผมและทรงผมให้เรียบร้อยทั้งด้านความสะอาดและรูปทรง
    -  โกนหนวดเคราให้เกลี้ยงเกลา ตัดและขริบให้เรียบร้อย
    -  รักษาผิวพรรณให้สะอาดสดชื่นอยู่เสมอ อย่าให้ผิวแห้งกร้าน
    -  รักษากลิ่นตัว
    -  รู้จักการแต่งหน้าแต่พองาม
    -  ดูแลเล็บมือ เล็บเท้า ให้สะอาดอยู่เสมอ
    -  ปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าและชุดชั้นในที่สวมใส่ทุกวัน
    -  ควรมีการเช็คร่างกายเป็นประจำทุกปี
    -  เมื่อร่างกายมีอาการผิดปกติรีบไปปรึกษาแพทย์

➤ หลักและวิธีเสริมสร้างบุคลิกภาพ

            การยืน เดิน นั่งเป็นส่วนสำคัญที่บอกถึงบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลอิริยาบถคือการ
เดิน ยืน นั่ง เปิด-ปิดประตู ขึ้นลงรถ อย่างถูกต้องสวยงาม

       การรู้จักทำตัวให้เข้ากับบุคคล สถานที่ และเวลา อย่างถูกต้องถือว่ามีมารยาททางสังคม
ที่ดี เช่น การรู้จักกราบไหว้ที่ถูกวิธี และถูกกาลเทศะ การรู้จักธรรมเนียมของชาวต่างชาติ การปฏิบัติ
ตนในงานเลี้ยงต่างๆการไปเยี่ยมคนป่วยการมอบดอกไม้แสดงความยินดีหรือให้ผู้อาวุโส เป็นต้น

              บางครั้งเราอาจจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจ และอาจเกิดอะไร
ขึ้นกับเราได้ทุกวินาทีนั้น เราต้องพร้อมเสมอที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ในลักษณะที่พร้อม คือไม่
ตกใจ ดีใจ เสียใจ กลัว เกินกว่าเหตุ สามารถควบคุมท่าทางของตนเองได้เป็นอย่างดี



          ➤แนวทางในการพัฒนาบุคลิกภาพ

               การรักษาสุขภาพอนามัย
             -  ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
             -  รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
             -  ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เพิ่มหรือลดผิดปกติ
             -  ละเว้นการสูบบุหรี่หรือยาเสพติดให้โทษทุกชนิด
             -  ไม่ดื่มสิ่งของที่มีแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน
             -  พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ วันละ 7-8 ชม.
             -  รักษาอารมณ์ให้สดชื่นแจ่มใสอยู่เสมอ

               การดูแลร่างกาย
             -  รักษาความสะอาดในช่องปากและฟัน
             -  ดูแลรักษาเส้นผมและทรงผมให้เรียบร้อยทั้งด้านความสะอาดและรูปทรง
             -  โกนหนวดเคราให้เกลี้ยงเกลา ตัดและขริบให้เรียบร้อย
             -  รักษาผิวพรรณให้สะอาดสดชื่นอยู่เสมอ อย่าให้ผิวแห้งกร้าน
             -  รักษากลิ่นตัว
             -  รู้จักการแต่งหน้าแต่พองาม
             -  ดูแลเล็บมือ เล็บเท้า ให้สะอาดอยู่เสมอ
             -  ปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าและชุดชั้นในที่สวมใส่ทุกวัน
             -  ควรมีการเช็คร่างกายเป็นประจำทุกปี
             -  เมื่อร่างกายมีอาการผิดปกติรีบไปปรึกษาแพทย์

               การแต่งกาย
              -  สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด ซักรีดให้เรียบ
              -  สีสันไม่ฉูดฉาดควรเลือกสีให้เหมาะสมกับรูปร่างและผิวพรรณของตนเอง
              -  กระเป๋าถือและรองเท้า ควรใช้หนังที่มีคุณภาพดี สีเรียบ สำรวจส้นรองเท้าจัดการซ่อมแซมให้เรียบร้อย
              -  แต่งหน้าให้แนบเนียน ไม่แต่งเข้มผิดธรรมชาติ เลือกใช้เครื่องสำอางที่มีคุณภาพดี
              -  เล็บและการทาเล็บ ไม่ควรไว้เล็บยาวจนเกินไป ควรเลือกสีกลาง ๆ อย่าปล่อยให้สีถลอกจะไม่น่าดู
              -  ผม หมั่นสระให้สะอาด  อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง  แปรงหวีให้เรียบร้อย เลือกทรงผมที่รับกับใบหน้า
             -  เครื่องประดับ ควรใช้เพื่อเสริมการแต่งกายให้ดูดีขึ้น แต่ไม่ควรใช้เครื่องประดับมากจนเกินไปจนดูสะดุดตารกรุงรังไปหมด
            -  ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับสภาพภูมิศาสตร์และวัฒนธรรม
            -  ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะ


                  อารมณ์
                   รู้จักควบคุมอารมณ์ ไม่ปล่อยอารมณ์ไปตามใจตนเอง  คนที่ควบคุมอารมณ์ตนเองได้จะได้เปรียบและจะเอาชนะเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้  ในการปฏิบัติงานเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีเหตุการณ์มากระทบกระเทือนอารมณ์กันอยู่เสมอ
                         ฉะนั้น บุคคลใดที่ต้องการจะพัฒนาบุคลิกภาพของตนให้ดีขึ้นจะต้องเป็นคนรู้จักอดทนใจเย็นเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่ถูกใจเกิดขึ้น

การพัฒนาบุคลิกภาพด้านความรู้สึกนึกคิด

        ความรู้สึกนึกคิดของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน ถ้ามีความรู้สึกนึกคิดในด้านดีไม่มองคนในแง่ร้าย
จิตใจก็เป็นสุข ไม่มีความกังวล ดังนั้นจึงควรพัฒนาบุคลิกภาพด้านความรู้สึกนึกคิดดังนี้
             1.มีความเชื่อมั่นในตนเองในการกระทำสิ่งต่างๆ
       2.มีความซื่อสัตย์ กระทำตนให้ผู้อื่นเชื่อถือเรา แล้วความไว้วางใจจะตามมา มีเรื่องสำคัญเขาก็จะ
ให้เราทำ
       3.มีความสามารถที่จะทำสิ่งเหล่านั้น ให้เหมาะสมกับผู้ที่มอบหมายไว้วางใจให้ทำ
       4.มีความกระตือรือร้นที่อยากจะทำ เตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ
       5.มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักปรับปรุงงานอยู่เสมอ
       6.มีความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามต้องมีความห่วงใยจะต้องทำให้เสร็จทันตามกำหนด
เวลา
       7.มีความรู้
       8.ห่วงตัวเอง เติมชีวิตให้กับตัวเอง
       9.มีความจำแม่น
      10.วางตัวเหมาะสมกับกาลเทศะ

➤ การพัฒนาบุคลิกภาพด้านกายบริหารทรวดทรง

     องค์ประกอบของทรวดทรง ขึ้นอยู่กับกลไกของการเคลื่อนไหวของร่างกายและโครงสร้าง   
 ของร่างกายไม่ว่าหญิงหรือชายก็ชอบที่จะมีรูปร่างงามทั้งนั้น ผู้ชายก็ต้องการมีรูปร่างสมาร์ท ผู้
หญิงก็ต้องการมีเอวบาง ร่างน้อย มีสุขภาพดี การมีรูปร่างงาม สุขภาพดี เกิดจากการพัฒนาตัวเรา
เอง เราเป็นผู้วางแผนในชีวิตของเราเอง

             ทรวดทรงอาจไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต แต่ส่วนสัดและท่าทาง ทำให้คนทุกคนดูแตก   
ต่างกันไป บุคลิกที่ไม่ดีแสดงว่าเจ้าของเรือนร่างขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ถ้าได้เรียนรู้วิธีเสริม
สร้างเสน่ห์ให้กับบุคลิกภาพของตนเองแล้ว จะไม่เพียงทำให้มีรูปร่างสง่างามเท่านั้น ยังสามารถ
ทำให้การปฏิบัติงานเกิดความเชื่อมั่น งานก็มีประสิทธิภาพอีกด้วย ดังนั้นจึงควรใช้เวลาในการบริหาร
ทรวดทรงของตนเองเป็นประจำอยู่เสมอ เพราะสุขภาพที่ดี และทรวดทรงที่งดงามอีกด้วย



การปรับปรุงบุคลิกภาพภายใน
  • การยอมรับความจริงเกี่ยวกับตนเอง
  • การปรับปรุงในส่วนที่ปรับปรุงได้
  • การใช้สิ่งอื่นๆเพื่อส่งเสริมบุคลิกภาพ

         การส่งเสริมบุคลิกภาพที่ดีควรส่งเสริมคุณภาพจิตสาธารณะมากำกับ เพื่อบุคคลจะได้ลดละความเห็นแก่ตนในระดับที่พอดำรงชีวิตอยู่ได้ เสียสละ เกื้อกูลคนอื่น เป็นผู้รับในบางโอกาสและเป็นผู้ให้ในบางโอกาส มีจิตใจที่ดีงาม มีร่างกายที่สะอาดสดใสก็เท่ากับว่าบุคคลได้ส่งเสริมหรือพัฒนาบุคลิกภาพแล้วนั่นเอง


การพัฒนาบุคลิกภาพด้านการเรียนรู้
    
          ในโลกปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นครูจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้และเพิมพูนประสบการณ์ให้ตรงกับตนเองอยู่เสมอ เช่น

  • การฟัง
  • การอ่าน
  • การเขียน
  • การสังเกต
  • การคิด
  • การทดลอง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น