วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560

Lesson 12



บันทึกอนุทิน

วิชา  การบริหารจัดการสถานศึกษาระดับปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน   ว่าที่ ร.ต.กฤตธ์ตฤณน์  ตุ๊หมาก
ประจำวัน  พุธที่  29  มีนาคม   2560
เรียนครั้งที่  12  เวลา   12.30 -  15.30  น.  
กลุ่ม 102


Knowledge (ความรู้)

นำเสนอคำคม


เลขที่ 22  นางสาวจิดาภา ร่าเริง 

" เราทำงานคนเดียวไม่ได้ แต่ละคนมีดีคนละอย่าง ควรหันหน้าเข้าหากัน ทำงานด้วยกัน
เอาส่วนรวม เป็นหลัก มิใช่เอาตน เป็นใหญ่ "



เลขที่ 23 นางสาวพัชราวรรณ  บรรลือทรัพย์

" หากเงิน คือ ความหวังของคุณสู่อิสรภาพ คุณจะไม่มีวันได้อิสรภาพภาพนั้นมา 
ความมั่นคงแท้จริงที่มนุษย์ต้องมี คือ ความรู้ ประสบการณ์ และความสามารถ "





เรื่อง การจัดตั้งสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย


ความสำคัญของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย

        การจัดการศึกษาปฐมวัยเป็นมิติใหม่ของการพัฒนาชุมชนเพื่อส่งเสริมการศึกษาและความ
เป็นอยู่ของเด็กในชุมชนให้ดีขึ้นและนับวันจะมีความสำคัญต่อชุมชนมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความสำคัญของการพัฒนาในช่วงระยะแรกของชีวิตเด็กและให้บรรลุถึงเป้าหมายของการพัฒนาเด็กคุณภาพ ประชากรเป้าหมายอันได้แก่ด้านสุขภาพอนามัยโภชนาการและด้านสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมอบอุ่นปลอดภัย


จุดมุ่งหมายในการจัดการศึกษาปฐมวัย
  • 1.เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กอย่างเต็มที่เพื่อจะได้เป็นพลเมืองไทยที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • 2.เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านบุคลิกภาพ อารมณ์ และสังคมของเด็กเพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพที่สมบูรณ์มีความเข้มแข็งทางจิตใจ
  • 3.เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีนิสัยที่ขยัน แข็งแรง ซื่อสัตย์มีระเบียบวินัยประหยัดสะอาด
  • 4.เพื่อส่งเสริมความคิดที่สร้างสรรค์ด้านต่างๆ
  • 5.เพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียน/ศูนย์เด็กก่อรวัยเรียนในการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆของเด็ก
  • 6.เพื่อตระหนักในปัญหาความเบี่ยงเบนของพัฒนาการเสียแต่แรกและดำเนินการต่อไปโดย
    เหมาะสม


หน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดการศึกษาในระดับปฐมวัย
        การศึกษาในระดับปฐมวัยเป็นการศึกษานะดับขั้นพื้นฐานที่ไม่ใช้การศึกษาภาคบังคับจึงทำให้มีหน่วยงานหลายหน่วยงานให้ความสนใจเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินการและรับผิดชอบการจัดการศึกษาในระดับนี้ที่ประกอบไปด้วยหน่วยงานภาครัฐ/เอกชนโดยจะมีลักษณะดำเนินการและวัตถุประสงค์ของ
หน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดการศึกษาในระดับปฐมวัยที่จัดให้มีระบบ
โรงเรียน ได้แก่

1.กระทรวงศึกษาธิการ
  • 1.1สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานจัดในรูปแบบระบบโรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลของรัฐ
  • 1.2สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ได้แก่โรงเรียนอนุบาลเอกชนอยู่ในความดูแลของหน่วยงานย่อยการศึกษาเอกชนรับเด็กในช่วงอายุ 3-6ปี เข้าเรียนในชั้นอนุบาลมัหลักสูตร 3ปีอนุบาล 1 อายุ3-4ปี อนุบาล 2 อายุ3-5ปีอนุบาล 3อายุ 5-6ปี
  • 1.3สังกัดสำนักงาน คณะกรรมการอุดมศึกษาจัดในรูปแบบระบบโรงเรียน โรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัย
  • 1.4องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบการจัดการศึกษาในระบบโรงเรียนรับเด็กช่วงอายุ 4-6ปี
  • 1.5สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดในระบบโรงเรียนสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการจัดในรูปโรงเรียนตำรวจชายแดน

หน่วยงานที่จัดการศึกษาในรูปแบบศูนย์พัฒนาเด็ก
  • 1.สถานสงเคราะห์เด็กก่อนวัยเรียน/ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของกองบัญชาการตำรวจชายแดนจัดบริการเด็กอายุ2-6ปี
  • 2. สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนของกรมประชาสงเคราะห์ให้การอนุบาลเลี้ยงเด็กให้การศึกษาแก่เด็กชาย/หญิงอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 6ขวบที่มีปัญหาการเลี้ยงดูจากพ่อแม่/เด็กพิการ
  • 3.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น สังกัดกระทรวงมหาดไทย
  • 4.สถานรับเลี้ยงเด็กกลางวันของสำนักงานอนามัย กรุงเทพมหานคร
  • 5. สถานรับเลี้ยงเด็กกลางวันของสำนักงานสวัสดิการสังคมกรุงเทพมหานคร
  • 6.บ้านเด็กสาธิตมหาวิทยาลัย

หลักเกณฑ์การจัดตั้งสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
1.การจัดตั้งสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในรูปแบบโรงรียน
     ขั้นตอนที่ 1
  • สถานที่
  • ที่ดิน
  • อาคารเรียน/ห้องเรียนและห้องประกอบ
  • ครุภัณฑ์และอุปกรณ์การเตรียมความพร้อง

     ขั้นตอนที่ 2
  • การขอจัดตั้งโรงเรียน
  • โครงการจัดตั้งโรงเรียน
  • ยื่นหนังสือขออนุญาตใช้แบบแปลนเพื่อก่อสร้างความพร้อมของเอกสาร
  • แบบแปลน 3 ชุด
  • หนังสือรับรองของสถาปนิก/วิศวกร
  • เอกสารการแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
  • รายการคำนวณโครงสร้าง
  • ในกรณีที่ผู้จัดตั้งโรงเรียนมีอาคารที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยก็จะดำเนินการ ดังนี้
              - แบบแปลน 3 ชุด
              - หนังสือรับรองสภาพความมั่นคงของอาคารรับรองโดยวุฒิของวิศวกร
              - เอกสารแสดงการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ใช้จัดตั้งโรงเรียนได้รับรองเป็นสำเนาถูกต้อง
  • การยื่นเรื่อง
           ส่วนกลาง ให้ยื่นเรื่องที่กองโรงเรียนสามัญศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน
           ส่วนภูมิภาค ให้ยื่นเรื่องที่อำเภอซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงรียน

ขั้นตอนที่ 3
         เมื่อก่อสร้างอาคารเสร็จเรียบร้อยให้ผู้ขอรับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนดำเนินการยื่นเอกสาร
  • คำขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน(สช 1)พร้อมเอกสารระบุท้ายคำขอ
  • คำขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน(สช4) พร้อมเอกสารระบุท้ายคำขอ
  • คำขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน(สช 7) พร้อมเอกสารระบุท้ายคำขอ
  • คำร้อง ร.11
  • ระเบียบการโรงเรียน
  • แผนผังบริเวณโรงเรียน
  • แผนผังอาคารเรียน/ห้องต่างๆ
  • รายการตรวจสถานที่และสุขาภิบาล
  • ใบอนุญาตให้ใช้แบบแปลน


คุณสมบัติของผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนผู้จัดการครูใหญ่/ครู
  • 1.มีความรู้ไม่ต่ำกว่าชั้น ม.3ตามหลักสูตรพุทธสักราช 2521
  • 2.ต้องมีความรู้ไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาปีที่ 6ตามหลักสูตรตอนปลาย
  • 3.ผู้ขอเป็นครูใหญ่
          - ต้องมีความรู้ทางการศึกษาไม่ต่ำกว่าประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา/มีความรู้ทางการศึกษาซึ่งกระทรวงศึกษาธิการรับรองว่าเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ต้องมีประสบการณ์เป็นครูมาไม่น้อยกว่าสามปี
          - ต้องมีความรู้ทางการศึกษาไม่ต่ำกว่าประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง มีความรู้ทางการศึกษาซึ่งกระทรวงศึกษาธิการรับรองว่าเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้
ต้องมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่าสองปี
          - ต้องมีความรู้ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่าหนึ่งปี


2.การจัดสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยภาคเอกชน

   ขั้นตอนในการจัดสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
  • การรับนักเรียน
  • การจัดประสบการณ์เตรียมความพร้อม
  • การบริหารโรงเรียน


3.การจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
  • การจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อให้สอดคล้องกับสถานที่และเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงได้กำหนดพันธกิจยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ 
     พันธกิจ
  • เพื่อพัฒนาความพร้อมแก่เด็กให้มีพัฒนาการทั้งสี่ด้าน ด้านร่างกาย  ด้านอารมณ์-จิตใจ ด้านสังคมและสติปัญญา
     ประเด็นยุทธศาสตร์
  • การส่งเสริมสนับสนุนให้พ่อแม่ผู้ปกครองมีความรู้สามารถอบรมเลี้ยงดูเด็กได้อย่างถูกต้องเตรียมความพร้อมทางวุฒิภาวะและสามารถเข้าสู่ระบบการศึกษาเต็มศักยภาพ
     เป้าประสงค์
  • พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนได้รับความรู้ความสามารถอบรมเลี้ยงดูเด็กได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
  • เด็กทุกคนได้รับการเลี้ยงดูพัฒนาตามวัยเต็มตามศักยภาพตามหลักจิตวิทยาการศึกษาและนวัตกรรม